ด่วน! กพท.ห้ามเที่ยวบินในประเทศ เดินทางเข้า-ออก 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ตั้งแต่ 21 ก.ค. ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ชัดระดับ hd ดูฟรี

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกประกาศห้ามสายการบินรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. นี้

CAAT ออกประกาศควบคุมเที่ยวบินเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้ม ส่งผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับการยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคครั้งปัจจุบันของรัฐบาล ดังที่ ศบค. ประกาศกฎระเบียบฯ (ฉบับที่ 28) และมีคำบัญชาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวัวโรนา 2019 (วัววิด-19) ที่ 10/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่ระบุเป็นหลักที่ควบคุมสูงสุดและเคร่งครัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์รีบด่วน พ.ศ. 2548 ตอนวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
สำนักงานการบินข้าราชการแห่งเมืองไทย (CAAT) ได้ออกประกาศเรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการการบินในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวัวโรนา 2019 (วัววิด-19) (ฉบับที่ 3) เพื่อให้เป็นไปตามหนทางที่ ศบค. ระบุหมายถึงการรอหรือการหยุดยั้งการเดินทางเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้ม โดยการห้ามสายการบินทำการบินรับส่งผู้โดยสาร เข้าหรือออกพื้นที่ที่ระบุเป็นหลักที่ควบคุมสูงสุดและเคร่งครัด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ตราบจนกระทั่งสถานการณ์ดังที่กล่าวถึงแล้วจะจบไป หรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มระบุแนวปฏิบัติซึ่งมีใจจุดสำคัญ ดังนี้
1. ห้ามสายการบินที่ให้บริการผู้โดยสาร (Passenger Flight) ทำการบินเที่ยวบินภายในประเทศ (Domestic Flight) รับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ที่ระบุเป็นหลักที่ควบคุมสูงสุดและเคร่งครัด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ในตอนที่มีการระบาดสูงตามข้อกำหนด (ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวัวโรนา 2019 (วัววิด-19) หรือ ศบค. ประเมินไว้พื้นฐานเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน) ยกเว้น
1.1 เป็นเที่ยวบินที่เกี่ยวพันกับโครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ (Sandbox) หรือ
1.2 เป็นกรณีอากาศยานที่ขอลงรีบด่วน (Emergency Landing) หรือขอลงด้านเทคนิค (Technical Landing) โดยไม่มีผู้โดยสารลงจากเครื่อง หรือ
1.3 มีความสำคัญ และได้รับอนุญาตจาก CAAT ซึ่งจำเป็นจะต้องแสดงหลักฐานเพื่อแสดงสิ่งที่มีความต้องการนั้นเพื่อประกอบการขอ ตัวอย่างเช่น เพื่อเข้ารับบริการด้านการแพทย์ เพื่อการรับวัคซีน เป็นต้น
โดยให้สายการบินรวมถึงสนามบินเตรียมการเอกสารยืนยันสิ่งที่มีความต้องการให้กับผู้ที่จำเป็นต้องดำเนินงานขนส่งสาธารณะในสังกัดซึ่งได้รับเว้นเสียแต่ เพื่อใช้แสดงต่อพนักงานข้าราชการถ้าเกิดมีการตรวจทานสำหรับเพื่อการดำเนินงานในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเคร่งครัด ส่วนกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบินและการรวมเที่ยวบิน ให้สายการบินแจ้งและดูแลผู้โดยสารอย่างเหมาะควร ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การปกป้องสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางบินประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553 สำหรับเที่ยวบินที่ให้บริการระหว่างประเทศ และเที่ยวบินที่ขนสินค้าโดยไม่มีผู้โดยสารจะมิได้รับผลกระทบจากประกาศนี้
2. สำหรับสนามบินและสายการบินที่ยังคงให้บริการได้ในเวลานี้ ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
2.1 การบินรับส่งผู้โดยสาร ให้มีปริมาณผู้โดยสารได้ไม่เกินจำนวนร้อยละ 50 ของระดับความสามารถสำหรับเพื่อการรับผู้โดยสารของอากาศยานที่ใช้ในเที่ยวบินนั้นๆและให้จัดที่นั่งข้างในอย่างเหมาะควรโดยพิจารณาถึงมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นคับแคบ แม้กระนั้นถ้าผู้โดยสารเดินทางมาด้วยกันสามารถให้นั่งติดกันได้
2.2 ก่อนเข้าพื้นที่สนามบิน ให้ตรวจคัดเลือกกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการอย่างเข้มงวด โดยจำเป็นต้องตรวจทานการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และการวัดอุณหภูมิร่างกาย (Body Temperature Screening) ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบรังสีอินฟาเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด (Non-contact Infrared Thermometer) ถ้าเกิดบุคคลนั้นไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือวัดอุณหภูมิได้สูงขึ้นมากยิ่งกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีลักษณะระบบทางเท้าหายใจ ตัวอย่างเช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย ให้ปฏิเสธการให้เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด
2.3 ก่อนออกบัตรโดยสาร ให้สายการบินตรวจทานเอกสารสำคัญของผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดที่หมายอย่างเคร่งครัด ถ้าเกิดตรวจทานแล้วพบว่าเอกสารผิดจำเป็นต้องไหมครบสมบูรณ์ อาจไตร่ตรองระงับการออกบัตรโดยสารแก่ผู้โดยสารนั้น
2.4 ให้สายการบินตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบรังสีอินฟาเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัดก่อนขึ้นเครื่องที่สถานีต้นทาง ถ้าเกิดวัดอุณหภูมิได้สูงขึ้นมากยิ่งกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีลักษณะระบบทางเท้าหายใจ ตัวอย่างเช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย ให้รีบแจ้งข้าราชการสาธารณสุขในพื้นที่โดยทันที
2.5 ก่อนออกมาจากพื้นที่สนามบิน ให้สนามบินตรวจคัดเลือกกรองผู้โดยสารอย่างเข้มงวดโดยการวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบรังสีอินฟาเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด ถ้าเกิดวัดอุณหภูมิได้สูงขึ้นมากยิ่งกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีลักษณะระบบทางเท้าหายใจ ตัวอย่างเช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย ให้รีบแจ้งข้าราชการสาธารณสุขในพื้นที่โดยทันที
2.6 ให้สนามบินติดตามดูแลให้ผู้ประกอบกิจการร้านค้าต่างๆในเขตพื้นที่ ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. โดยครัดเคร่ง
2.7 ให้สนามบินและสายการบินเพิ่มความครัดเคร่งสำหรับเพื่อการติดตามดูแลให้พสกนิกรผู้มาใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการในระเบียบสำนักงานการบินข้าราชการแห่งเมืองไทยว่าด้วยแนวปฏิบัติสำหรับเพื่อการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวัวโรนา 2019 (วัววิด-19) พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 9 เดือนเมษายน พ.ศ. 2564 โดยครัดเคร่ง และมาตรการ หนทาง หรือแนวปฏิบัติอย่างอื่นที่ ศบค. หรือรัฐบาลระบุ
2.8 ให้สนามบินและสายการบินแจ้งเตือนผู้โดยสารกรณีเป็นผู้ป่วยการันตีหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้งดการเดินทาง ถ้าเกิดฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
นอกเหนือจากนี้ ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินข้าราชการแห่งเมืองไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบกิจการสนามบินและผู้ดำเนินการการบินในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวัวโรนา 2019 (วัววิด-19) (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และให้ใช้ประกาศเรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการการบินในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวัวโรนา 2019 (วัววิด-19) (ฉบับที่ 3) ประกาศ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 แทน
สำนักงานการบินข้าราชการแห่งเมืองไทย ตระหนักถึงผลกระทบและความขัดข้องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัวโรนา 2019 จึงขอให้ผู้โดยสารทุกคนโปรดรู้เรื่องและร่วมมือในมาตรการดังที่กล่าวถึงแล้ว โดยสำนักงานการบินข้าราชการแห่งเมืองไทย ได้ประสานกับสายการบินเพื่อเตรียมอำนวยความสะดวกสำหรับเพื่อการแปลงแผนการเดินทางของผู้โดยสารไว้แล้ว และเพื่อให้ผู้โดยสารมีเวลาแค่พอสำหรับเพื่อการจัดการ จึงขอผ่อนผันต่อ ศบค. เพื่อให้การจัดการนี้ส่งผลในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ซึ่งสำนักงานการบินข้าราชการฯ จะเฝ้าติดตามผลของมาตรการต่างๆอย่างใกล้ชิด เพื่อนำการบินของไทยกลับสู่ภาวะธรรมดาโดยด่วนที่สุด
หมายเหตุ : พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเคร่งครัด (พื้นที่สีแดงเข้ม) 13 จังหวัด ดังเช่นว่า จังหวัดกรุงเทพ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร