
หนังบอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่ ธอร์ ( เฮมสเวิร์ธ ) ได้เสร็จภารกิจของกลุ่มอเวนเจอร์ เขาเริ่มตามหาหินอินฟินิตี้รวมทั้งได้ทราบเรื่อง “คำทำนายแร็กที่นาร็อก” ซึ่งพยากรณ์ว่าจะเกิดการสู้รบที่ทำให้แอสการ์ดจำต้องพังฉิบหาย เขาจึงบากบั่นป้องกันแอสการ์ดจากคำทำนาย แต่ก็เหมือนจะเสียเปล่าเมื่อเจอกับเรื่องจริงที่โอดิน( ฮอปกิ้นส์ ) บิดาของเขาได้ปกปิดเอาไว้ เมื่อเฮล่า ( แบลนเชทท์ ) ทวยเทพแห่งความตายที่ถูกโอดินจองจำได้ถูกปล่อยออกมา เฮล่า จึงกลับมายังแอสการ์ดเพื่อแก้แค้นรวมทั้งยึดครองแอสการ์ด ธอร์จึงจำต้องต่อสู้เพื่อป้องกันแอสการ์ด แต่ เฮล่ากลับจัดการธอร์ได้อย่างง่ายๆ แถมค้อนโยเนียร์ก็ถูกทำลาย รวมทั้งในระหว่างการต่อสู้นั้นเอง ธอร์ได้หลุดไปยังดาวซาคาร์รวมทั้งถูกจับไปเป็นนักสู้มึงลดดิเอเตอร์ ซึ่งทำให้ธอร์ได้เจอกับฮัลค์ ( รัฟฟาโล ) รวมทั้งจำต้องต่อสู้กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อหาทางกลับไปช่วยปล่อยแอสการ์ดจากเงื้อมมือของเฮล่า
แม้โครงเรื่องดูน่าจะเป็นหนังแนวแอคชั่นหนักๆแบบซีเรียส แต่ตัวอย่างก็บอกแล้วว่าประเด็นนี้มีฮาแน่ๆ หนังเปลี่ยนเป็นหนังแอคชั่นแฟนตาซีที่มีความขำขันเบาสมอง ใส่มุกเข้าไปแบบไม่ยั้งแทบทุกฉากทุกตอน แม้กระทั้งตัวโอดินบิดาของธอร์ที่ดูขรึมๆจริงจังๆก็ยังมีฉากฮากับเขาด้วยเลย แต่พอถึงฉากแอคชั่นก็มันสุดติ่ง ยิ่งได้เพลง Immigrant Song ของ Led Zeppelin มาประกอบกับตอนต่อสู้ของธอร์มันช่างลงตัวได้อย่างเกินจริง รวมถึงเพลงประกอบตอนที่ไปยังดาวซาคาร์ก็มีกลิ่นคล้ายๆกับเรื่อง Guardian of Galaxy อยู่เหมือนกัน เมื่อความขำขันตลกรวมกับฉากแอคชั่นมันๆความสนุกก็เกิดขึ้น รวมถึงฉากสถานที่ตามดาวเคราะห์ต่างๆสเปเชียลเอฟเฟกทำได้ดีมาตรฐานไม่ตกไปจากภาคก่อนๆหรือหนังค่ายเดียวกัน สิ่งหนึ่งที่จะประหลาดตาไปจากภาคก่อนๆน่าจะเป็นในเรื่องของสีสันต่างๆโดยยิ่งไปกว่านั้นที่ดาวซาคาร์ซึ่งเป็นดาวที่สามารถเรียกได้เลยว่ามีความเหลื่อมล้ำเหมือนสังคมโลกในปัจจุบันที่คนมั่งคั่งหรือผู้ดีก็จะแต่งตัวดีๆสีสันฉูดฉาดดูกีฬาที่มีความรุนแรง ยกตัวอย่างเช่น เอาคนมาฆ่ากัน ( ถ้าหากในโลกของพวกเราก็อาจจะเป็นพวกมวยสากล หรือ อเมริกันฟุตบอล ) ขณะที่ชนชั้นแรงงานก็จำต้องอาศัยอยู่ตามกองขยะคอยดักปล้นเพื่อเอาชีวิตรอด เรียกได้ว่าดูๆไปก็สะท้อนถึงสังคมในปัจจุบัน
สำหรับเฮมสเวิร์ธในหน้าที่ของธอร์ ภาคนี้มองดูว่าเขาจะมีความผ่อนคลายเป็นพิเศษต่างจากภาคก่อนๆ โดยธอร์จะเป็นคนตลกขบขัน สนุก ถูกใจแหย่ผู้อื่นไม่ค่อยมีความดราม่าให้มองเห็นมากสักเท่าไรนักแต่ธอร์ก็ยังคงมีความเอาแต่ใจตัวเองรวมทั้งชอบทำตามอารมณ์อย่างเดิม ส่วนในบทแอคชั่นเฮมสเวิร์ธก็ยังเล่นบทบู๊ได้อย่างเท่ห์มีสไตล์ ถือว่าเป็นเฮมสเวิร์ธทำได้ตามมาตรฐานของเค้าที่เคยได้ทำเอาไว้ ในส่วนของโลกิ ถ้าหากพวกเราได้เคยดูในภาคก่อนๆจะรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนไม่ดีร้ายคอยคิดคดทรยศทุกคนได้ตลอดระยะเวลา แต่ในภาคนี้ฮิดเดิลสตันบางครั้งก็อาจจะไม่มีความเหี้ยมโหดอำมหิตเท่าไรนัก แต่ในความกะล่อนอุบายยังมีอย่างเดิม เพิ่มเติมคือความพลิ้ว เรียกได้ว่าที่เคยไม่ชอบๆกัน บางครั้งก็อาจจะหลงรักในความทะเล้นของเค้าก็เป็นได้ ในส่วนของแบลนเชทท์ในหน้าที่ของเฮล่า ทวยเทพแห่งความตาย จำต้องจัดว่าเธอเล่นก้าวหน้าสุดๆเหมาะสมกับบทนี้มากมายๆทั้งยังสีหน้าแววตาอาการดูกรวกับแม่มดที่เหี้ยมโหดอำมหิตอย่างกับในหนังเทพนิยายลูกพี่ลูกน้องกริมม์ไม่มีผิด ดูไปดูมานี่นึกว่านักจัดรายการวิทยุต้นหอม หรือ พลอยพืชพันธุ์มาลย์มาเล่นประเด็นนี้ด้วย นานๆคราวจะมองเห็นแบลนเชทท์มาเล่นหนังซูเปอร์ฮีโร่ อีกผู้ที่จำต้องขอเอ๋ยถึงก็คือในส่วนของ วัลคีปรี่อดีตกาลนักสู้ชาวแอสการ์ดที่รับบทบาทโดย เทสซ่า ทอมป์สัน ประเด็นนี้เธอเล่นได้เท่ห์มากมายๆเป็นสาวนักสู้ที่มีความแข็งแกร่งราวกับเพศชายอกสามศอก แถมยังดูมีเสน่ห์เรียกได้ว่าเป็นสาวผิวสีที่ขึ้นกล้องถ่ายรูปสุดๆดูสวยสดใส รวมทั้งโอดิน กษัตริย์ชราบิดาของธอร์ ที่ท่านเซอร์แอนโธนี่เล่น ที่แม้จะโผล่มาน้อยไม่มากสักเท่าไรนักแต่ก็ทำให้พวกเรามองเห็นถึงออร่าของดาราผู้ยิ่งใหญ่ รวมทั้งความมีอิทธิพลในทุกๆฉากที่มึงโผล่มา เว้นฉากตลกขบขันครับผม ที่มึงเองก็เล่นได้น่ารักสามารถเรียกเสียงเฮมาได้เหมือนกัน ส่วนฮัลค์ในภาคนี้ก็จะเหมือนเด็กน้อยโง่เขลาดันทุรังในร่างยักษ์ตัวเขียว ที่ก็เรียกเสียงเฮได้เป็นช่วงๆเหมือนกัน ผิดกับฮัลค์ที่พวกเราเคยดูที่มีความกราดเกรี้ยวเป็นประจำ thor ragnarok ศึกอวสานเทพเจ้า
สำหรับ Thor ภาคนี้ผมให้แต้ม 8.5 เต็ม 10 ครับผม หักตรงที่บางคราวบากบั่นใส่มุกตลกขบขันเข้าไปมากเกิน บางมุกก็มีความรู้สึกฝืด บางมุกก็สามบาทห้าบาท แม้ว่าฉากนั้นไม่มีความจำเป็นต้องใส่ก็ได้ เอาตรงๆก็มุกที่จะขำสุดๆก็จะเป็นในมุกประเภทเจ็บตัว เป็นต้น รวมถึงการที่นักแสดงหลายๆตัวตายง่ายเกิ๊น อารมณ์ประมาณว่า อ่าว ตายแล้วหรอ ปัดโถ่ อุตส่าห์โผล่มาทั้งที (แต่ก็เข้าใจนะว่าเฮล่ามันเก่งจริงๆ) แม้ว่าบางตัวภาคก่อนๆโคตรเก่ง รวมถึงฉากซึ้งๆระหว่างพ่อลูก ที่ทำได้ดูอย่างกับว่าอารมณ์ยังไม่สุดเยอะแค่ไหน แม้กระนั้นหนังประเด็นนี้สนุกสนานครับผมไม่มีเบื่อดูเพลินๆคนไหนกันแน่ที่ถูกใจแนวตลกขบขันเบาสมอง หรือ แอคชั่นที่ถ่ายทำได้มันรวมทั้งสวยสดงดงามแบบแฟนตาซี ต้องห้ามพลาด ยิ่งถ้าหากแฟนหนังมาร์เวลส์ยิ่งจำต้องดู
More Stories
เว็กฮอร์สต์ ไหวแน่นะวิ, ผีเสียสถิติจนได้ – 5 ข้อ แมนยู โดน พาเลซ ทำแสบแชร์แต้ม
hit789 เว็บเดิมพันออนไลน์ แทงหวยมาแรง จ่ายสูง บริการเกมพนันอื่นๆ อีกมากมาย
ipro889 เว็บหลักที่ไม่ผ่านเอเย่นต์เว็บไซต์ปลอดภัยสุดลงเดิมพันได้แบบไม่โดนโกง