5 จุดสำคัญที่จะทำให้มูรินโญ่พาสเปอร์สบินสูง ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ชัดระดับ hd ดูฟรี

เปิด 5 เหตุผลสำคัญที่จะทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ พา สเปอร์ส ทำผลงานเยี่ยมในซีซั่นนี้ หลังเริ่มจูนทีมได้ลงตัวในการทำงานฤดูกาลที่สอง

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พุ่งขึ้นมาเป็นเต็ง 3 ที่จะครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ตามสายตาของบริษัทรับพนันที่ถูกตามกฎหมายเกือบทุกที่ในประเทศอังกฤษ โดยด้อยกว่าแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล แค่นั้น
โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม “ไก่เดือยทอง” กำลังปรับจูนกลุ่มของตนเองให้พอดี หลังเข้ามาดำเนินการช่วงปลายปีที่ผ่านมา แล้วก็นี่เป็น 5 เหตุผลที่จะทำให้พวกเขาไปได้ดีในฤดูกาลนี้

1. ขุมกำลังแน่นปึ๊กทุกตำแหน่ง

ในตอนเปิดตลาดซัมเมอร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สเปอร์ส ได้นักเตะมาเสริมกองทัพหลายรายอีกทั้ง เอ็งเร็ธ เบล, เซร์คิโอ เรกีลอน, คาร์ลอส วินิซิอุส, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, ปิเครื่องปรับอากาศ เอมิล ฮอยเบิร์ก แล้วก็ โจ ฮาร์ท
จากการที่กลุ่มมีขุมกำลังขนาดใหญ่ทำให้ มูรินโญ่ สามารถเวียนนักเตะได้กับการลงเตะหลายรายการที่ต้องลงเล่นสัปดาห์ละ 2 นัด
ขณะนี้ ทุกตำแหน่งของ สเปอร์ส มีผู้เล่นที่ตอบแทนกันได้หมดไล่ตั้งแต่นายทวารที่มีอีกทั้ง อูโก้ โยริส แล้วก็ ฮาร์ท ในเวลาที่แนวรับก็ดูดีขึ้นหลังได้อีกทั้ง เรกีลอน แล้วก็ โดเฮอร์ตี้ มาเสริมกองทัพ
จากการที่มีตัวเลือกหลายรายนำมาซึ่งการทำให้ มูรินโญ่ สามารถเลือกเล่นได้อีกทั้งแท็กติก 4-3-3 หรือ 3-5-2 ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้าว่าจะพบกับคู่แข่งกลุ่มไหน

2.ซน-เคน คู่หูนรกแตก

ในฤดูกาลนี้ แก่นแก้ว ฮึง-ไม่น แนวรุกชาวเกาหลีใต้ ออกสตาร์ตได้ร้อนแรงด้วยการทำประตูในลีกไปแล้วถึง 7 ลูกจากการลงเล่น 5 นัด ในเวลาที่ใน 4 ซีซั่นที่ผ่านมาเขาก็ทำแต้มในทุกรายการรวมกันได้ถึง 77 ประตูด้วยกัน จนถึงทำให้ได้รับคำกล่าวชมเชยอย่างยิ่งในช่วงหลัง
ในเวลาที่ แฮร์รี่ เคน แนวรุกกลุ่มชาติอังกฤษ ทำไปแล้ว 5 ประตูใน พรีเมียร์ลีก นอกนั้นทั้งคู่ยังผลัดกันจ่ายให้ยิงอีกเป็นว่าเล่น โดยในเกมบุกไปเอาชนะ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน ขาดลอย 5-2 นั้น เคน แอสซิสต์ 4 ลูกให้ แก่นแก้ว ทำให้เป็นครั้งแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่มีนักเตะคนเดิมจ่ายให้เพื่อนพ้องคนเดิมยิงอีกทั้ง 4 ประตูอีกด้วย
การสลับกันเป็นฝ่ายยิงแล้วก็จ่ายระหว่างคู่หู “เคน-แก่นแก้ว” ทำให้มีประตูที่เกิดจากการติดต่อประสานงานกันของทั้งคู่ในศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 28 ลูก ซึ่งมากสุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากคู่หู แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (36 ประตู), ดาบิด ซิลบา กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ (29 ประตู) แล้วก็ โรแบร์ ปิแรส กับ เธียร์รี่ อองรี (29 ประตู) แค่นั้น
นอกจากนั้น ตั้งแต่แมื่อที่ มูรินโญ่ ก้าวเข้ามาคุมกองทัพ “ไก่เดือยทอง” เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน เคน (33 ประตู) กับ แก่นแก้ว (30 ประตู) เป็นสองนักเตะที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูรวมทุกรายการมากสุด เหนือทุกคนในเวที พรีเมียร์ลีก อีกด้วย

3.ฮอยเบิร์ก ขับเคลื่อนเกม

อีก 1 นักเตะ สเปอร์ส ที่ได้รับคำกล่าวชมเชยอย่างยิ่งเป็น ปิเครื่องปรับอากาศ-เอมิล ฮอยเบิร์ก มิดฟิลด์กลุ่มชาติเดนมาร์ก ที่เพิ่งจะย้ายมาจาก เซาธ์หมูแฮมป์ตัน เมื่อเดือนสิงหาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
ค่าตัวของ ฮอยเบิร์ก วัย 25 ปี อยู่ที่แค่ราว 15 ล้านปอนด์ (โดยประมาณ 600 ล้านบาท) แค่นั้น แล้วก็เจ้าตัวก็ยึดตัวจริงได้อย่างรวดเร็ว โดยลงเล่นเป็นตัวจริงอีกทั้ง 5 นัดใน พรีเมียร์ลีก แล้วก็ลงในสนามเกม ยูโรปา ลีก ที่ชนะ แอลเอเอสเค 3-0 ด้วย
ฮอยเบิร์ก ทำเป็นเยี่ยมอีกทั้งในประเด็นการตัดเกม นำมาซึ่งการทำให้ช่วยงานของกองหลังได้เยอะแยะ ในเวลาที่การทำเกมรุกก็เด่น ส่งบอลได้เยี่ยม ราวกับอย่างที่บ่งบอกถึงสำหรับการจ่ายทะลุช่องเข้าจุดโทษให้ แซร์ช ออริเย่ร์ ทำประตูในเกมบุกไปกระหน่ำ แมนฯ ยูไนเต็ด 6-1

4.ไม่ใช่ มู จอมน่าเบื่ออีกแล้ว

ที่ผ่านมา มูรินโญ่ ถูกคิดว่า เป็นผู้จัดการทีมที่น่าเบื่อ แล้วก็ชอบใช้แผนรถบัสสำหรับการเน้นย้ำผลของการแข่งขัน นำมาซึ่งการทำให้กลุ่มของเขาไม่ค่อยทำแต้มได้มากนัก
แต่ ในซีซั่นนี้ สเปอร์ส ไม่ได้เป็นกลุ่มที่เล่นได้น่าเบื่อ เพราะว่าตั้งแต่เกมแรกที่แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 นั้น พวกเขาก็เดินหน้าทำประตูคู่แข่งได้มากมาย
“ไก่เดือยทอง” เอาชนะ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน 5-2 บุกกระหน่ำ แมนฯ ยูไนเต็ด 6-1 แล้วก็เสมอ เวสต์หมูแฮม 3-3 ในเวลาที่ในถ้วย ยูโรปา ลีก ก็อัด มัคคาบี้ ไฮฟา 7-2 แล้วก็ชนะ แอลเอเอสเค 3-0

5. ระวังทีเด็ด เบล

เอ็งเร็ธ เบล ปีกซูเปอร์สตาร์กลุ่มชาติเวลส์ ได้กลับมาเล่นให้ สเปอร์ส อีกที หลังย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยคำสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล
เบล กลับมาสวมยูนิฟอร์ม “ไก่เดือยทอง” หนแรกในรอบ 7 ปี หลังจากที่เจ้าตัวเก็บของใช้ของสอยย้ายจาก สเปอร์ส ไปร่วมกองทัพ “ราชันชุดขาว” เมื่อตอนซัมเมอร์ปี 2013 ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในเวลานั้น ที่ 100 ล้านยูโร (โดยประมาณ 3,700 ล้านบาท)
แม้ เบล จะยังทำแต้มให้ สเปอร์ส ในรอบนี้ไม่ได้ แต่ว่าถ้าตัวรุกเวลส์ กลับมามีสภาพร่างกายสมบูรณ์เต็มเปี่ยมล่ะก็ การันตีว่าเขาจะมีทีเด็ดแน่นอน